ผลการฝึกอบรมที่พึงประสงค์

1. การดูแลรักษาผู้ป่วย (Patient Care)

- มีทักษะในการซักประวัติและตรวจร่างกายทางโรคหัวใจและหลอดเลือด

- มีทักษะในการวินิจฉัย บำบัดรักษาภาวะผิดปกติทาง โรคหัวใจและหลอดเลือดที่พบในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

- มีทักษะในการส่งและแปลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพื้นฐานที่จำเป็น

- มีทักษะในการดูแลและรักษาผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ และหลอดเลือด

- มีทักษะในการทำหัตถการที่จำเป็นของโรคหัวใจและหลอดเลือด

- มีทักษะในการเสริมสร้างและป้องกันโรค

- ดูแลผู้ป่วยโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงสิทธิของผู้ป่วย และดูแลแบบองค์รวม

- มีทักษะในการช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วย (cardiopulmonary resuscitation)

- มีทักษะในการบันทึกรายงานผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์และสม่ำเสมอ


2. ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการนำไปใช้แก้ปัญหาของผู้ป่วยและสังคมรอบด้าน (Medical Knowledge and Skills)

- มีทักษะในการตรวจทางห้องปฏิบัติการและ/หรือแปลผล เพื่อวินิจฉัย ตรวจติดตามการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดชนิด non-invasive และ invasive


3. การพัฒนาตนเองและการเรียนรู้จากการปฏิบัติ (Practice-based Learning and Improvement)

- สามารถตั้งคำถามจากปัญหาทางคลินิก

- มีทักษะในการวิจัยขั้นพื้นฐานและมีความรู้เกี่ยวกับระบาดวิทยาดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้

- วิพากษ์บทความและงานวิจัยทางการแพทย์


4. ทักษะปฏิสัมพันธ์และการสื่อสาร (Interpersonal and Communication Skills)

- เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะปฏิสัมพันธ์และการสื่อสารทั้งกับผู้ป่วย ญาติ และผู้ร่วมงานทุกระดับชั้น

- สามารถสื่อสารให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อย่างมีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานความเชื่อทางสุขภาพที่ต่างกัน โดยมีเมตตา เคารพการตัดสินใจ และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

- ถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แพทย์ นักศึกษาแพทย์ และบุคคลากรทางการแพทย์ และสามารถเป็นที่ ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่แพทย์และบุคลากรอื่นๆ

- นำเสนอข้อมูลผู้ป่วยและอภิปรายปัญหาในกิจกรรมวิชาการได้

- นำเสนอข้อมูลผู้ป่วยและอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ


5. ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)

- มีคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติ อันดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพและชุมชน

- มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

- คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม


6. การปฏิบัติงานให้เข้ากับระบบ (System-based Practice)

- มีความรู้เกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ

- คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วย (Patient Safety) เป็นสำคัญ

- การใช้ยาอย่างสมเหตุผล (Rational drug use)

- มีความรู้และมีส่วนร่วมในระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย (Quality improvement)

- ใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม (Cost Consciousness Medicine) และสามารถปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เข้ากับบริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ